วันพฤหัสบดี ที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา เวลา 14.00 น. ณ ห้องรัชดาบอลรูม โรงแรม SC PARK มูลนิธิไทยคมจัดงานแถลงข่าวโครงการ มูลนิธิไทยคม ฟุตบอลแคมป์ 2016 โดยมี คุณทรงศักดิ์ เปรมสุข กรรมการมูลนิธิไทยคม ดร.กิตติพงษ์ โพธิมู อธิบดีกรมพลศึกษา ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดร.สรายุทธ มหวลีรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) พร้อมกันนี้ ยังมี “โค้ชโมท” อ.ปรีชาพัฒน์ ปยุตเรืองกิตติ์ หัวหน้าการคัดเลือกรอบภาค, “โค้ชอุ้ม” น.อ.ปิยะกุล แก้วน้ำค้าง หัวหน้าการคัดเลือกรอบสุดท้าย, “โค้ชอรุณ” อรุณ ตุลย์วัฒนากูร ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดนักเรียนไทย 18 ปี และจักรพงศ์ สืบสมุทร์ นักฟุตบอลสโมสรโอสถสภา เอ็ม 150 สมุทรปราการ และ เดชา มูฮัมหมัด นักฟุตบอลสโมสรแอร์ฟอร์ซ โรบินสัน เอฟซี เยาวชนจากโครงการมูลนิธิไทยคม ฟุตบอลแคมป์ ร่วมพูดคุยถึงรายละเอียดต่างๆ ในโครงการมูลนิธิไทยคม สานฝันเยาวชนไทยที่มีใจรักกีฬาฟุตบอล ให้โอกาสก้าวสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้ในอนาคต เดินหน้าจัดโครงการ มูลนิธิไทยคม ฟุตบอลแคมป์ 2016 เปิดคัดเลือกเยาวชนอายุระหว่าง 15 – 18 ปี ที่มีทักษะและความสามารถด้านกีฬาฟุตบอลจาก 5 ภาค ทั่วประเทศ ได้แก่ ภาคอีสาน จ.ขอนแก่น วันอาทิตย์ที่ 8 พ.ค. ณ สนาม ม.บัณฑิตเอเชีย ภาคใต้ จ.สงขลา วันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค. ณ สนามมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ วันอาทิตย์ที่ 5 มิ.ย. ณ สนามมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภาคกลางและภาคตะวันออก มาคัดเลือกที่กรุงเทพมหานคร วันอาทิตย์ที่ 19 มิ.ย. ณ สนามซ้อมเอสซีจี เมืองทอง
การคัดเลือกเยาวชนในแต่ละภาค จะคัดเลือกเยาวชนนักเตะฝีเท้าดี ตามตำแหน่งของนักเตะในสนามแข่งขันทั้ง กองหน้า กองกลาง กองหลัง และผู้รักษาประตู ภาคละ 11 คน รวมเป็น 55 คน มาเข้าแคมป์เก็บตัวและฝึกทักษะฟุตบอลขั้นสูงในรอบสุดท้ายที่มหาวิทยาลัยชินวัตร ระหว่างวันที่ 15 – 19 ก.ค.59 เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเป็นนักฟุตบอลอาชีพภายใต้การกำกับดูแลจากโค้ชระดับชาติมากประสบการณ์ “โค้ชอรุณ” อรุณ ตุลย์วัฒนากูร ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดนักเรียนไทย 18 ปี เพื่อเฟ้นหาสุดยอดเยาวชนนักเตะที่มีความสามารถทางฟุตบอล มีฝีเท้าโดดเด่นที่สุด 11 คน ตามตำแหน่งของนักเตะในสนาม รับทุนการศึกษา 15,000 บาท/คน พร้อมโล่เกียรติคุณจากมูลนิธิไทยคมและกรมพลศึกษา
คุณทรงศักดิ์ เปรมสุข กรรมการมูลนิธิไทยคม เผยว่า “มูลนิธิไทยคม ฟุตบอลแคมป์ ถือเป็นแคมป์เดียวในประเทศไทยที่รวบรวมโค้ชระดับชาติมาถ่ายทอดความรู้ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติในการเล่นฟุตบอลเฉพาะตำแหน่ง เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยที่มีทักษะและความสามารถเชิงลูกหนังอายุตั้งแต่ 15-18 ปี จากทั่วประเทศ สมัครเข้าร่วมโครงการฯ โดยตลอด 5 ปีที่ผ่านมา มีเยาวชนสมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 7,000 คน มีเยาวชนที่ถูกสโมสรฟุตบอลอาชีพระดับไทยพรีเมียร์ลีก ดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 ดึงตัวไปร่วมทีมกว่า 23 คน ไม่ว่าจะเป็นสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด สโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี สโมสรราชบุรี มิตรผล เอฟซี สโมสรโอสถสภา เอ็ม 150 สมุทรปราการ สโมสรแอร์ฟอร์ซ โรบินสัน เอฟซี และทีมเยาวชนทีมชาติไทย ซึ่งผมเชื่อว่าโครงการนี้จะเป็นประตูสู่ความสำเร็จให้กับน้องๆ ที่สนใจอยากเป็นนักเตะอาชีพในอนาคตครับ”
กิจกรรมฟุตบอลแคมป์ในปีนี้ มูลนิธิไทยคมได้รับความกรุณาจาก “โค้ชหรั่ง” ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้ดูแลหลักสูตรของโครงการฯ และได้เชิญโค้ชมากประสบการณ์ระดับชาติอย่าง อ.ปรีชาพัฒน์ ปยุตเรืองกิจ อดีตผู้ฝึกสอนเยาวชนทีมชาติไทยร่วมเป็นหัวหน้าชุดคัดเลือกเยาวชนในรอบคัดเลือก และ “โค้ชอุ้ม” น.อ.ปิยะกุล แก้วน้ำค้าง อดีตผู้ฝึกสอนฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย เป็นหัวหน้าชุดคัดเลือกในรอบสุดท้าย
และอีกหนึ่งโอกาสพิเศษสำหรับน้องๆ ที่ผ่านเข้ามาในรอบสุดท้าย จะได้ไปทดสอบฝีเท้ากับทีมสโมสรชั้นนำของไทยอย่างสโมสร SCG เมืองทองยูไนเต็ด สโมสรโอสถสภา เอ็ม 150 สมุทรปราการ และสโมสรบางกอกกล๊าส เอฟซี เพื่อคัดเข้าทีมและก้าวสู่การเป็นนักเตะอาชีพในอนาคต
มูลนิธิไทยคมยังคงยึดมั่นในแนวทางการดำเนินงานเพื่อ ‘ให้โอกาส สร้างอนาคต’ แก่เยาวชนไทย โดยจัดค่าย มูลนิธิไทยคม ฟุตบอลแคมป์ อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีส่วนในการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยและหวังให้เกิดความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการผลักดันวงการฟุตบอลของไทยก้าวสู่ระดับโลกต่อไป
